· ระบบ หมายถึง กลุ่มของสิ่งซึ่งมีลักษณะประสานเข้าเป็นสิ่งเดียวกัน ตามหลักแห่งความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกันด้วยระเบียบของธรรมชาติหรือหลักเหตุผลทางวิชาการ
· ระบบสารสนเทศ หมายถึง เซตหรือการรวมตัวของกระบวนการหลายกระบวนการ สำหรับงานด้านการเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผลเพื่อปรับรูปแบบของข้อมูลให้เข้าสู่รูปแบบของสารสนเทศ ตลอดจนการกระจายสารสนเทศที่เป็นผลลัพธ์จากการประมวลผลสู่ผู้ใช้ระบบเพื่อใช้สำหรับการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลประกอบด้วยชุด ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล โทรคมนาคม บุคลากรและกระบวนการ ที่มีการรวมตัวกันเพื่อการเก็บรวบรวม การจัดการ การจัดเก็บ ตลอดจนการประมวลผลข้อมูลให้เข้าสู่รูปแบบของสารสนเทศ
· แบบจำลองของสารสนเทศ ประกอบด้วยส่วนย่อยของแบบจำลองระบบสารสนเทศ 7 ส่วนดังนี้
· ผู้ใช้ขั้นปลาย คือผู้ใช้สารสนเทศที่อยู่ภายในหน่วยงานต่างๆทั้งภายในและภายนอกธุรกิจ ซึ่งมีความต้องการใช้สารสนเทศที่เป็นผลลัพธ์จาการประมวลผลของระบบสารสนเทศโดยปกติประกอบด้วยผู้ใช้ 2 กลุ่ม
o กลุ่มที่ 1 ผู้ใช้ภายนอก คือผู้ใช้ที่ประกอบด้วย เจ้าหนี้เงินกู้ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน
o กลุ่มที่ 2 ผู้ใช้ภายใน คือผู้บริหารระดับต่างๆขององค์การ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติการด้านต่างๆโดยมุ่งเน้นถึงความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้แต่ละรายเป็นสำคัญ
· ต้นทางข้อมูลหรือแหล่งข้อมูลของ คือ ธุรกรรมทางการเงินที่นำเข้าสู่ระบบสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วนดังนี้
o ส่วนที่ 1 ต้นทางข้อมูลภายนอก คือธุรกรรมทางการเงินที่ได้รับจากภายนอกธุรกิจ
o ส่วนที่ 2 ต้นทางข้อมูลภายใน คือธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนหรือความเคลื่อนไหวของทรัพยากรภายในองค์การ
· การรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนแรกซึ่งมีความสำคัญที่สุดของการดำเนินการภายในระบบสารสนเทศ มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ด้านการรับข้อมูลหรือเหตุการณ์ต่างๆโดยเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง สมเหตุสมผล ครบถ้วนสมบูรณ์และปราศจากข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น
· การประมวลผลข้อมูล หลังจากที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องทำการประมวลผลข้อมูลทั้งในรูปแบบที่ง่ายและรูปแบบที่มีความซับซ้อน จำแนกการประมวลผลได้ 2 รูปแบบคือ
o รูปแบบที่ 1 การประมวลผลแบบกลุ่ม
o รูปแบบที่ 2 การประมวลผลแบบทันที
· การจัดการฐานข้อมูล ข้อมูลที่จัดเก็บในฐานข้อมูล จะประกอบด้วยหน่วยเก็บข้อมูลที่เรียงลำดับจากหน่วยเล็กที่สุดไปหาหน่วยใหญ่ที่สุด คือ ลักษณะประจำ ระเบียนและแฟ้มข้อมูล ในส่วนการจัดการฐานข้อมูล จะเกี่ยวข้องกับงานขั้นพื้นฐาน 3 งาน คือ การจัดเก็บ การค้นคืน และการลบ
· การก่อกำเนิดสารสนเทศประกอบด้วยกระบวนการแปลโปรแกรม การจัดข้อมูล การกำหนดรูปแบบ รวมทั้งการนำเสนอสารสนเทศต่อผู้ใช้ โดยสารสนเทศที่ใช้มักอยู่ในรูปแบบของเอกสารปฏิบัติงาน เช่น ใบสั่งยา
· ผลป้อนกลับจะอยู่ในรูปแบบของรายงานที่เป็นผลลัพธ์ ซึ่งถูกส่งกลับไปยังระบบในฐานะของต้นทางข้อมูลภายในหรือภายนอกก็ได้ และยังอาจถูกนำไปใช้ในฐานะข้อมูลเริ่มต้นหรือข้อมูลสำหรับการปรับเปลี่ยนกระบวนการ
o หากส่วนประกอบทั้ง 7 ส่วน มีการรวมตัวกันอย่างเหมาะสมจะสนองตอบวัตถุประสงค์ของระบบสารสนเทศได้ 3 ประการ
§ ประการที่ 1 การสนับสนุนหน้าที่งานด้านการจัดการ
§ ประการที่ 2 การสนับสนุนหน้าที่งานด้านการตัดสินใจ
§ ประการที่ 3 การสนับสนุนหน้าที่งานด้านปฏิบัติการ
o บทบาทของระบบสารสนเทศ
· โซ่คุณค่า จะประกอบด้วยกิจกรรมหลักของการจัดการต้นทางการผลิตและการจัดการตามทาง ในส่วนของการผลิตสินค้าและบริการ โดยรวมกิจกรรมหลักทั้ง 3 ส่วน ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนที่สัมพันธ์กัน
o การจัดการต้นทาง ต้นทางของการผลิตสินค้าและบริการ จะเกี่ยวข้องกับการจัดการวัตถุดิบในส่วนของการจัดหาวัตถุดิบ
o การผลิต สำหรับการแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้าหรือบริการขั้นสุดท้าย โดยมีการนำวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนการผลิตต่างๆมาประกอบกันเป็นสินค้าสำเร็จรูป
o การจัดการตามทาง การจัดการตามทิศทางการไหลของสินค้าสำเร็จรูปจนถึงปลายทางของการส่งมอบให้ลูกค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยเก็บสินค้าสำเร็จรูป โลจิสติกส์ขาออก การตลาดและการขาย ตลอดจนงานด้านการบริการลูกค้า โดยมีการใช้ระบบสารสนเทศด้านหน่วยเก็บและค้นคืนสินค้าอัตโนมัติ ด้านวางแผนการกระจายสินค้า
· ระบบคุณค่า จะเป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมภายใต้โซ่คุณค่าทั้งภายในและภายนอกองค์การ ภายใต้รูปแบบโซ่อุปทาน โดยการใช้ระบบสารสนเทศ โดยการใช้ระบบสารสนเทศเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อโซ่คุณค่าขององค์การกับโซ่คุณค่าขององค์การภายนอก
· การสนับสนุนงานขององค์การ บทบาทของระบบสารสนเทศในส่วนของการใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานขององค์การภายใต้โซ่คุณค่าและระบบคุณค่า 3 ลักษณะ
o การสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ ในบางครั้งลูกค้าขององค์การจำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ โดยเฉพาะในส่วนการสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจและการดำเนินงานภายในองค์การ
o การสนับสนุนการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศจะให้ความสนับสนุนต่อผู้จัดการร้านค้าและนักธุรกิจมืออาชีพในส่วนของการตัดสินใจที่ดีขึ้น
o การสนับสนุนความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน สารสนเทศที่ดียังมีส่วนช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันเหนือธุรกิจอื่น เนื่องด้วยองค์การมีการนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ร่วมกับกานทำงานของระบบสารสนเทศ
· การเพิ่มมูลค่าให้องค์การ พิจารณาได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
§ ระยะที่ 1 การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิผล ระยะนี้องค์การนี้ได้มุ่งเน้นด้านการนำสารสนเทศที่ได้รับจากระบบประยุกต์ด้านต่างๆมาเป็นข้อมูล เพื่อพัฒนางานหรือปรับปรุงการทำงาน
o ระยะที่ 2 การสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่จะช่วยสร้างผลประโยชน์ในระยะยาวขององค์การที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน ทั้งนี้ ต้องอาศัยกลยุทธ์ทางธุรกิจมาช่วยเสริม
o ระยะที่ 3 การจัดการเชิงผลปฏิบัติงาน ระยะนี้นอกจากจะมุ่งเน้นการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการลดต้นทุน และการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันแล้ว ยังมีการใช้สารสนเทศร่วมกับมาตรการวัดผลการปฏิบัติงานเพื่อสร้างตัวชี้วัดประสิทธิผลจาการใช้งานระบบสารสนเทศด้วย
o วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศ
§ การใช้ระบบสารสนเทศในเริ่มแรกของธุรกิจ จะเป็นการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานเป็นประจำซ้ำๆกันภายใต้ธุรกรรมจำนวนมาก ในเวลาต่อมาองค์การได้พัฒนาระบบสารสนเทศในรูปแบบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการโดยมีการใช้ระบบเพื่อเข้าถึง จัดโครงสร้าง สรุป และแสดงผลสารสนเทศที่มีส่วนช่วยสนับสนุนในการตัดสินใจประจำวันภายใต้การทำงานของแผนกงานตามหน้าที่
o ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบที่แตกต่างกันของระบบสนับสนุนด้านต่างๆมีดังนี้
· แต่ละระบบมีลักษณะจำเพาะที่จำแนกได้เป็นระบบ
· มีการเชื่อมต่อสายงานด้านสารสนเทศระหว่างระบบต่างๆ
· ระบบสารสนเทศแต่ละระบบสามารถเชื่อมต่อกันภายใต้รูปแบบของระบบลูกผสม
· เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ความสัมพันธ์และการประสานงานระหว่างระบบสารสนเทศในรูปแบบที่ต่างกัน โดยสามารถเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และในอนาคต รูปแบบความสัมพันธ์อาจเปลี่ยนแปลงไป
§ การจำแนกระบบสารสนเทศ
§ ประเภทของระบบสารสนเทศโดยใช้เกณฑ์ระดับขององค์การโดยมีการจัดโครงสร้างตามลำดับชั้นที่ประกอบด้วยระบบย่อยหลายระบบจากล่างขึ้นบนเป็น 3 ประการ ดังนี้
· ระบบสารสนเทศตามหน้าที่งาน ในส่วนระบบสารสนเทศตามหน้าที่งานจะเป็นการรองรับการทำงานของแผนกงานต่างๆซึ่งจำแนกความรับผิดชอบตามหน้าที่งานขององค์การ
· ระบบสารสนเทศวิสาหกิจ จะเกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระบบประยุกต์ของแต่ละหน้าที่งานเข้ากับระบบสารสนเทศวิสาหกิจ ซึ่งมักเรียกว่า การบูรณาการระบบสารสนเทศ
§ จำแนกประเภทระบบสารสนเทศที่ใช้ภายในวิสาหกิจโดยใช้เกณฑ์ระดับผู้ใช้งานภายในวิสาหกิจได้เป็น 2 ประเภท คือ
§ ประเภทที่ 1 ระบบสารสนเทศส่วนบุคคล
§ ประเภทที่ 2 ระบบสารสนเทศกลุ่มงาน
· ระบบสารสนเทศระหว่างองค์การ การใช้สารสนเทศไม่ได้จำกัดแค่ภายในองค์การเท่านั้นยังมีการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศระหว่างสององค์การขึ้นไปเข้าด้วยกัน ซึ่งนิยมเรียกกันว่า ระบบสารสนเทศระหว่างองค์การหรือไอโอเอส โดยแหล่งที่ตั้งขององค์การอยู่ภายในประเทศเดียวกันหรือคนละประเทศก็ได้ ซึ่งหากแหล่งที่ตั้งขององค์การอยู่คนละประเทศแล้ว อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ระบบสารสนเทศครอบคลุมทั่วโลก การพัฒนาไอโอเอส จึงมุ่งตอบสนองแรงกดดันทางธุรกิจ 2 ประการ
§ ประการที่ 1 ความปรารถนาในการลดต้นทุน รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ และความทันต่อเวลา ภายใต้กระบวนการทางธุรกิจ ที่เกี่ยวข้อง
§ ประการที่ 2 ความต้องการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศขององค์การกับระบบสารสนเทศของหุ้นส่วนธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์ดังนี้
· การลดต้นทุนธุรกรรมซึ่งเกิดขึ้นประจำ
· การเพิ่มคุณภาพและขจัดข้อผิดพลาดของสายงานด้านสารสนเทศ
· การลดช่วงเวลาของการทำคำสั่งซื้อของลูกค้าให้บรรลุผล
· การกำจัดกระบวนการที่ใช้กระดาษทั้งในส่วนของการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพตลอดจนการลดต้นทุนกระดาษ
· การโอนย้ายและการประมวลผลสารสนเทศทำได้ง่ายขึ้น
· การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์การกับลูกค้าและผู้จัดหา
· การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของไอโอเอส มักจะปรากฏรูปแบบ 8 รูปแบบ ดังนี้
· ระบบ การค้าแบบธุรกิจสู่ธุรกิจ
· ระบบสนับสนุนการค้าแบบธุรกิจสู่ธุรกิจ
· ระบบครอบคลุมทั่วโลก
· การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์
· กรุ๊ปแวร์
· การส่งสารแบบรวม
· ฐานข้อมูลใช้ร่วมกัน
· ระบบที่ใช้สนับสนุนบริษัเสมือน
· จำแนกระบบย่อยของไอโอเอส ได้เป็น 2 ระบบ คือ การจัดการหุ้นส่วนสัมพันธ์และการพาณิชย์แบบรวมมือ
o ระบบสารสนเทศบนเว็บ
· อินเตอร์เน็ต บางครั้งอาจเรียกง่ายๆว่า เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยผู้ใช้ที่อยู่ ณ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งๆสามารถรับสารสนเทศจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้
· อินทราเน็ต ในส่วนแนวคิดของอินทราเน็ต จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์การและอินเตอร์เน็ต ซึ่งอินทราเน็ต คือการใช้เทคโนโลยีเว็บสำหรับการสร้างเครือข่ายส่วนตัว ซึ่งมักถูกจำกัดการใช้งานเฉพาะภายในองค์การ โดยใช้เครือข่ายเฉพาะที่หรือระบบระบบแลน ร่วมกับโพรโทคอลทีซีพี/ไอพี เพื่อสร้างแบบฉบับของระบบแลนที่มีความสมบูรณ์
· เว็บศูนย์รวมวิสาหกิจ คือเว็บไซต์ที่ติดตั้งเกตเวย์ เพื่อใช้คบคุมการเข้าถึงสารสนเทศของบริษัทจากจุดเพียงจุดเดียว โดยมีการรวมตัวของสารสนเทศจากหลายๆแฟ้มข้อมูลและส่งผ่านสารสนเทศไปยังผู้ใช้
· เอกซ์ทราเน็ต ถูกเชื่อมต่อกับอินทราเน็ต โดมักมีการเสริมกลไกความมั่นคงทางอินเทอร์เน็ต และฟังก์ชันงานเท่าที่เป็นไปได้ ตลอดจนมีการสร้างรูปแบบเครือข่ายเสมือนจริง ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ทางไกล
· ระบบอีคอมเมิร์ซบนเว็บ มักจะมีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในรูปแบบของธุรกิจสู่ธุรกิจ ธุรกิจสู่ผู้บริโภค ธุรกิจสู่หน่วยสาธารณะ ตลอดจนผู้บริโภคสู่หน่วยสาธารณะ
· ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ คือ เครือข่ายการโต้ตอบและความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนสารสนเทศผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนการรับชำระเงินเมื่อสถานที่ซื้อขายถูกเปลี่ยนรูปแบบจากอาคารทางกายภาพ เป็นเว็บไซต์อิเล็กทรอนิกส์
· การแลกเปลี่ยนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก็คือสถานที่ซื้อขายสาธารณะบนเว็บ
· คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และการพาณิชย์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ คือตัวอย่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบสำหรับลูกจ้างเคลื่อนที่และอื่นๆ การพาณิชย์เคลื่อนที่หรืออีคอมเมิร์ซ คือ การสร้างธุรกรรม ณ สถานที่ใดๆและเวลาใดก็ได้ภายใต้ระบบสื่อสารไร้สาย
( เอกสารอ้างอิง รุจิจันทร์ พิริยะสงวนพงศ์. สารสนเทศทางธุรกิจ. )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น